การใช้วิตามินบำบัด/การดริปวิตามิน IV Drip หรือ IV Therapy ย่อมาจาก Intravenous Therapy หมายถึงการให้วิตามินหรือสารน้ำผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกาย
1. Curcumin IV (สารสกัดจากขมิ้นชัน)
ขมิ้นชันเป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด ด้วยสารอาหารที่ครอบครองดังนี้
- วิตามินเอ: เป็นสารต้านออกซิแดนที่มีประโยชน์ในการปกป้องเซลล์ผิวและระบบมลภาวะ
- วิตามินบี 1: ช่วยในกระบวนการเมตาบอลิสซึมและการใช้พลังงานในร่างกาย
- วิตามินบี 2: มีบทบาทในการสร้างเนื้อเยื่อและผิวขาวในร่างกาย
- วิตามินบี 3: เสริมสร้างระบบประสาทและมลภาวะ
- วิตามินชี: เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันและการสร้างกระดุม
- วิตามินอี: มีส่วนร่วมในการปกป้องเซลล์ผิวจากความเสียหายจากสารออกซิเดชั่น
- แคลเซียม: มีบทบาทสำคัญในส่วนกายและการกระตุ้นกล้ามเนื้อให้ทำงานตามปกติ
- ฟอสฟอรัส: สำคัญในการสร้างกระดุมและระบบกระดุมและกระดุม
- เหล็ก: เป็นส่วนหนึ่งของฮีมโลบินและเกี่ยวข้องกับการขนส่งออกซิเจนในร่างกาย
- เกลือแร่: มีบทบาทในการรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย
การให้สารสกัดจากขมิ้นชัน (Curcumin) เข้าสู่ร่างกายผ่านหลอดเลือดดำจะมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคต่าง ๆ รวมถึงโรคมะเร็ง จากการศึกษาวิจัยการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง (Clinical Trial) ด้วย curcumin ร่วมกับยาเคมีบำบัดพบว่า ได้ผลดีในมะเร็งตับอ่อน มะเร็งเต้านม มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้
ประโยชน์ของการทำ Curcumin IV (สารสกัดจากขมิ้นชัน)
- ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และลดการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส ในร่างกาย รวมถึงช่วยต้านมะเร็ง
- ช่วยลดการสะสมของเบต้าอะมัยลอยด์โปรตีนในสมอง
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะการหายใจล้มเหลวฉับพลัน และกลุ่มอาการ การทำหน้าที่ผิดปกติของหลายอวัยวะ
- ช่วยลดการอักเสบ/บรรเทาอาการปวด
- ช่วยต้านเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน
- ช่วยในการรักษาโรคต่าง ๆ เช่น โรคข้ออักเสบข้อต่อ โรคลำไส้อักเสบ โรคซึมเศร้า และป้องกันโรคเบาหวาน เป็นต้น
2. Resveratrol IV (เรสเวอราทรอล)
การให้สารกลุ่ม Polyphenol ที่พบมากในองุ่นและผลไม้ตระกูลเบอร์รี เช่น บลูเบอร์รี แครนเบอร์รี และมัลเบอร์รี ซึ่งเป็นสารสำคัญที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เข้าสู่ร่างกายผ่านหลอดเลือดดำ มีบทบาทสำคัญในเรื่องของการชะลอวัย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว โดยไปกระตุ้นคอลลาเจนใต้เซลล์ผิว
ประโยชน์ของการทำ Resveratrol IV (เรสเวอราทรอล)
- ช่วยป้องกัน และลดอัตราการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด และยังช่วยลดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (Venous Thromboembolism: VTE)
- ช่วยลดภาวะการอักเสบ ภายในร่างกาย
- ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งบางชนิด
- ช่วยต้านเอนโซม์ที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยเผาผลาญไขมัน และล้างไขมันในเลือด
- ช่วยเผาผลาญน้ำตาล และกระตุ้นการทำงานของอินซูลิน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ
- ช่วยล้างสารพิษ Dioxin ออกจากร่างกาย
- ช่วยเพิ่มความยาว Telomere ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการเสริมสร้างเซลล์ในร่างกาย
- ช่วยสร้าง Mitochondria เกี่ยวข้องกับการเพิ่มพลังงาน
- ช่วยสร้างพลังงานระดับเซลล์ ATP ซึ่งเป็นสารที่ใช้ในกระบวนการเผาผลาญพลังงาน.
- ช่วยในการหลับลึก (Non-Rapid Eye Movement) ปรับคุณภาพการนอนหลับ และช่วยลดอาการนอนไม่หลับ
- ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า
- ช่วยชะลอความเสื่อมของสมอง
3. วิตามินซีบำบัด
การให้วิตามิน C เข้มข้น รวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระ และเกลือแร่ต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายผ่านหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยให้เซลล์ภายในร่างกายได้รับสารอาหารได้โดยตรง ส่งผลในการรักษา และฟื้นฟูสุขภาพร่างกายอย่างรวดเร็ว ส่งเสริมการทำงานภายในร่างกายในหลายระบบให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของการทำวิตามินซีบำบัด
- ช่วยปกป้องและซ่อมแซมเซลล์ กระตุ้นและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และป้องกันการติดเชื้อ
- ช่วยฆ่าเชื้อไวรัส ลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในร่างกาย
- ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้
- ช่วยในการหายของบาดแผล ส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อ และผิวหนังใหม่
- ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย และเพิ่มพลังการทำงานของร่างกาย
- ช่วยลดภาวะต่อมหมวกไตล้า ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานของไตให้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดแดง โรคหัวใจ โรคเข่าเสื่อม ข้ออักเสบ โรคเก๊าท์ และโรคต้อกระจก
- ช่วยเสริมประสิทธิภาพการรักษามะเร็ง เมื่อรักษาร่วมกันกับการใช้รังสีบำบัด
- ช่วยสร้างคอลลาเจนผิว ทำให้ผิวกระชับเรียบเนียน และช่วดลดการสร้างเม็ดสี ทำให้ผิวดูกระจ่างใส ผิวพรรณมีสุขภาพดี
4. NAD+ Therapy
NAD+ หรือ Nicotinamide Adenine Dinucleotide คือ การให้วิตามินเข้าสู่ร่างกายผ่านหลอดเลือดดำ โดยให้โคเอนไซม์ชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มวิตามิน B3 ซึ่งเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ และปรากฏอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกายมนุษย์ มีบทบาทสำคัญในการทำงานของไมโทคอนเดรีย โดยเปลี่ยนแปลงสารอาหารให้เป็นพลังงานสำหรับเซลล์ประสาทและสมอง
ประโยชน์ของการทำ NAD+ Therapy
- ช่วยรักษาองค์ประกอบของโมเลกุลดีเอ็นเอ (DNA) และเพิ่มความยาวให้เทโลเมียร์ (Telomere) ซึ่งเป็นตัวช่วยบ่งบอกอายุขัย และความเสื่อมภายในร่างกาย
- ช่วยเสริมสร้างและกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดความเสี่ยงจากโรคที่เกิดจากการติดเชื้อ
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารสื่อประสาท (Neurotransmitter) ในสมอง ทำให้ระบบการทำงานของสมองและหน่วยความจำทำงานดีขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์เซอร์ทูอิน (Sirtuin) ซึ่งทำหน้าที่ช่วยลดการอักเสบ ฟื้นฟู ซ่อมแซมความเสียหายระดับดีเอ็นเอ อันมีสาเหตุมาจากมลภาวะแสงแดดและรังสียูวี (UV) การดำเนินชีวิต การรับประทานอาหาร และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ช่วยในการผลิต Adenosine Triphosphate (ATP) ซึ่งเป็นสารให้พลังงานแก่เซลล์ของสิ่งมีชีวิต ทั้งยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของไมโทรคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานในร่างกายมนุษย์
- ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองให้แข็งแรง และชะลอการเสื่อมถอยทางสติปัญญา
- ช่วยในการแปลงอาหารให้เป็นพลังงาน และเพิ่มการเผาผลาญ
- ช่วยในการดูแลให้สุขภาพเซลล์แข็งแรงขึ้น และกระตุ้นการทำงานของเซลล์
- ช่วยชะลอความชรา
- ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า
5. ไมเยอร์ ค็อกเทล (Myer’s Cocktail)
การให้สารอาหารและแร่ธาตุหลายชนิด ประกอบด้วยวิตามิน C B1 B2 B3 B5 B6 B12 โฟเลต แร่ธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม โซเดียม คลอไรด์ และสารต้านอนุมูลอิสระ ในสัดส่วนที่เหมาะสม เข้าสู่ร่างกายผ่านหลอดเลือดดำ เพื่อช่วยส่งเสริมการทำงานของเซลล์ และระบบไมโตคอนเดรีย ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญของเซลล์ และช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ ที่ผิดปกติของร่ายกายได้
ประโยชน์ของการทำไมเยอร์ ค็อกเทล
- ช่วยให้ร่างกายสดชื่น ลดอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง
- ช่วยบรรเทาอาการหอบหืด ไมเกรน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และภูมิแพ้ได้
- ช่วยในการนอนหลับดีขึ้น ลดอาการของโรคกังวล และซึมเศร้า
- ช่วยในการฟื้นตัวของผู้ป่วยระยะพักฟื้นหลังผ่าตัด
- ช่วยเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ลดการอักเสบต่าง ๆ
- ช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ